Ultima Life

Ultima Life
2 ตัวจ่ายบาทละ 92 เต็งจ่ายบาทละ 800 แทงง่าย จ่ายไว เล่นได้ทุกวัน ดีจริง ๆ เลย มีทั้งหวยรัฐบาล หวยหุ้น หวยต่างประเทศ จับยี่กี ฯลฯ

โปรโมชั่นสมาชิก Ultima Life

โปรโมชั่นสมาชิก Ultima Life

ตีตั๋วเที่ยวอิตาลีง่าย ๆ สำหรับสมาชิก Ultima Life

ทริปท่องเที่ยวอิตาลี - โรม ปิซ่า เวนิส เวโรน่า มิลาน




ทำอย่างไรจึงมีสิทธิ์รับโปรโมชั่นนี้




- ทำรายได้ Balance (Weak Strong 10%)




- ทุก 2,000 บาท ได้รับ 1 คะแนนท่องเที่ยว




- สะสมครบ 200 คะแนนท่องเที่ยว ได้รับสิทธิ์ 1 ที่นั่ง




- สะสมครบ 400 คะแนนท่องเที่ยว ได้รับสิทธิ์ 2 ที่นั่ง




* หมายเหตุ  1 รหัสสมาชิก รับสิทธิ์ได้ไม่เกิน 2 ที่นั่ง





เงื่อนไข และคุณสมบัติของสมาชิกผู้ร่วมโปรโมชั่น


- ผู้ร่วมโปรโมชั่นท่องเที่ยว ต้องเป็นสมาชิกตำแหน่ง Diamond เท่านั้น


- ผู้ร่วมโปรโมชั่นท่องเที่ยว ต้องรักษายอดเพื่อเก็บคะแนนท่องเที่ยวในแต่ละเดือน


- ผู้ร่วมโปรโมชั่นท่องเที่ยว ถ้ารับตั๋วญี่ปุ่น  50 คะแนนไปแล้ว สามารถสะสมโปรฯ ยุโรปเพิ่มอีก 150 คะแนน เพื่อรับตั๋วโปรโมชั่นนี้


- ผู้ร่วมโปรโมชั่นท่องเที่ยว ถ้ารับตั๋วญี่ปุ่น 100 คะแนนไปแล้ว สามารถสะสมโปรฯ ยุโรปเพิ่มอีก 150 คะแนน เพื่อรับตั๋วโปรโมชั่นนี้


* หมายเหตุ ทริปท่องเที่ยวนี้เดินทางประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม 2563

แผนรายได้ Ultima Life

แผนรายได้ Ultima Life

แผนการตลาดของ Ultima Life by DOD




  • Ultima life เริ่มต้นธุรกิจมี 3 แพคเกจเปิดบิล เล็ก กลาง ใหญ่
  • Ultima life แผนการจ่ายรายได้บนโครงสร้าง 2 สายงาน
    ออกแบบมาให้ช่วยเหลือกกันทำงานได้ง่าย โดยรูปแบบของการวางสายงาน
    คนแนะนำจะไม่สามารถจับไปเรียงในผังจุดไหนก็ได้
    ระบบบังคับสมัครวางซ้ายสุดขวาสุดเท่านั้น
    แผนนี้จึงเป็นแผนบังคับช่วยคนที่มาทีหลังไปด้วย มาก่อนมาหลังไม่สำคัญ
  • Ultima life โบนัสค่าแนะนำเริ่มต้นที่ 10-12% ตามตำแหน่ง  (ไม่รักษายอดก็มีสิทธิ์รับ)
  • Ultima life โบนัสบริหารจากคะแนนทีมอ่อน 10% (ไม่รักษายอดมีสิทธิ์รับ)
  • Ultima life โบนัสแมทชิ่ง 30% คำนวนจากรายได้ของทีมของ G1-G5 (รับได้เฉพาะคนลงแพ็คเกจใหญ่) รักษายอดเพื่อได้รับทุกเดือน
  • Ultima life รักษายอดรายเดือนประมาณ 1,500 บาท แล้วแต่สินค้า จะได้สิทธิ์เก็บคะแนนท่องเที่ยว

Ultima Life Grand Opening งานเปิดตัวอัลติม่าไลฟ์ แกรนด์โอเพนนิ่ง

Ultima Life Grand Opening งานเปิดตัวอัลติม่าไลฟ์ แกรนด์โอเพนนิ่ง

คุณพรรษมนต์ ธราวิทย์ณัฐกุล กรรมการผู้จัดการ คุณธานัท จารุฤทธิไกร
ผู้บริหารฝ่ายการตลาด และ ภญ.ภัสราธาดา วัชรธาดาอาภาภัค
ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ นำทีมผู้บริหารบริษัท อัลทิมา ไลฟ์ จำกัด จัดงาน
Ultima Life Grand Opening (อัลทิมา ไลฟ์ แกรนด์ โอเพนนิ่ง) สุดอลังการ
พร้อมจัดหนักจัดเต็มทั้งความสนุกสนานกับกิจกรรมพิเศษส่งท้ายปีที่จะพาตื่นตาตื่นใจไปกับโลกแห่งนวัตกรรมภายใต้แบรนด์ อัลทิมา ไลฟ์ (Ultima Life) อาทิ การเผยนวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำสำหรับการทำธุรกิจในโลกออนไลน์ ,กองทัพผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามมากมายกว่า 20 รายการ ,นิทรรศการแสดงผลงานด้านนวัตกรรมสุดยิ่งใหญ่พร้อมลุ้นรับรางวัลพิเศษอีกมากมาย 

และรับชมไฮไลท์พิเศษกับการแสดงเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ เผยโฉม 5
พรีเซ็นเตอร์สุดฮอตอย่างเป็นทางการ อาทิ แหม่ม-วิชุดา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
รีเวิส วาย (R3VERSE VINE) จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ผลิตภัณฑ์เวย์โปรตีน One whey
(วัน เวย์) แอนดี้ เขมพิมุก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบชงดื่มอ๊อบ-เอ็กซ์
(OB-EX) เอมมี่ มรกต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลล็อกซ์ (Callox) และ
ติ๊ก-เจษฏาภรณ์ ผลดี พรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลวารีน (LEVAREAN)
ปิดท้ายด้วย คอนเสิร์ตสุดมันส์จากศิลปิน บอย พีชเมกเกอร์ ในวันเสาร์ที่ 23
พฤศจิกายน 2562 ตั้งแต่เวลา 11.00 – 17.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์
5 เรียกว่าเป็นงานใหญ่แห่งปีที่ชาวอัลทิมา ไลฟ์ ไม่ควรพลาด!!!!

CALLOX รีวิวอาหารเสริม แคลล็อกซ์

CALLOX 



CALLOX
นวัตกรรมใหม่ ในการลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคุณภาพ จาก Ultima life



Callox : คุณสมบัติผลิตภัณฑ์



- ลดฮอร์โมนความอยาก ปลอดภัย มาตรฐานการผลิต โดยผู้เชี่ยวชาญ และผ่านงานวิจัยที่เชื่อถือได้

- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ลดอายุเซลล์ในร่างกาย
ไม่ใช้ยาเป็นส่วนผสม ปลอดภัย ยับยั้งการสะสมของไขมัน แป้งและน้ำตาล

- ลดความอยากอาหาร

- ควบคุมความผิวและระดับน้ำตาลในเลือดที่ระดับฮอร์โมน ทำให้อิ่มนานขึ้น ทานได้น้อยลง

- ดักจับไขมันจากอาหารได้ถึง 80% จากเห็ดแชมปิญอง

- ชะลอการดูดซึมน้ำตาล

- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน อันเกิดจากการรับประทาน คาร์โบไฮเดรต (แป้ง)

- เพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน

- ยับยั้งไขมันสะสม



*** คนเป็นโรคเบาหวานก็ทานได้



CALLOX เม็ดเดียว ควบคุมได้ถึง 4 ฮอร์โมน

- เพิ่มฮอร์โมนความอิ่ม ลดฮอร์โมนความอยากอาหาร

- ยับยั้งฮอร์โมนความหิว

- ชะลอการย่อย ดูดซึมน้ำตาล

- กระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ดึงไขมันสะสมมาใช้



วิธีรับประทาน

แคลล็อกซ์ ครั้งละ 1-2 เม็ด ก่อนอาหาร 15 นาที

Callox น้ำหนักสุทธิ 33.54 กรัม บรรจุ 30 แคปซูล / 1 แคปซูล ( 1,118.00 มิลิกรัม)



CALLOX ราคาขายปลีก กล่องละ 1,590 บาท



สั่งซื้อสินค้า คลิกที่นี่

สมัครตัวแทนจำหน่าย คลิกที่นี่

ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก มาเลเซีย ไทย

มาเลเซีย - ไทย 14 พฤศจิกายน 2562

การปะทะกันของมาเลเซีย กับ ไทย ในเกมวันพรุ่งนี้จะเป็นเกมที่มีความหมายที่สุด กับทีมช้างศึก ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

ถ้าเราชนะ เราจะกำหนดทิศทางได้เลยว่า เกมต่อไปที่เจอกับเวียดนาม
จะเล่นแบบไหน ซึ่งตรงข้ามถ้าเราไม่ชนะ สถานการณ์ย่อมบีบให้เรา
ต้องบุกไปชนะที่ฮานอยให้ได้ ซึ่งมันจะทำให้การเข้ารอบของเรายากขึ้นมาก



แน่นอน มีความหวั่นใจเกิดขึ้น จากสถิติที่ไทยไม่เคยชนะในบูกิต จาลิล
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่า เราไม่มีอะไรต้องไปกลัวขนาดนั้น อย่าลืม
มาเลเซียคือทีมบ๊วยของโถ 4 และมีอันดับโลกห่างจากเรา 49 อันดับ


เราจะไปวิเคราะห์กันก่อนเกมจะเริ่ม ถึงแผนการเล่นที่ไทยน่าจะใช้
ในการรับมือกับมาเลเซีย รวมถึงแนวทางของคู่แข่งด้วยว่า
พวกเขาจะจริงจังกับเกมนี้แค่ไหน

------------------------------

[ เกมสำคัญไม่มีการทดลอง ]

ตอนประกาศรายชื่อ 32 คน รอบแรกก่อนตัดตัว มีชื่อของนักเตะหลายคนที่ทำให้แฟนๆเซอร์ไพรส์ แต่สุดท้าย คนที่มีชื่อเข้ามาใหม่ ได้แก่

ชนานันท์ ป้อมบุบผา - ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ธีระพล เยาะเย้ย - สมุทรปราการ ซิตี้
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี - สมุทรปราการ ซิตี้
พิชา อุทรา - สมุทรปราการ ซิตี้
ชญาวัต ศรีนาวงษ์ - สมุทรปราการ ซิตี้
ศราวุธ อินทร์แป้น - สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
อภิรักษ์ วรวงษ์ - สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด


ทั้งหมดโดนอากิระ นิชิโนะ ตัดทิ้ง และเหลือผู้เล่นชุดเดิม
จากเกมชนะยูเออีเอาไว้ครบเซ็ต จะมีเพิ่มเข้ามาก็แค่ชนาธิป
สรงกระสินธ์ที่หายเจ็บแล้วเท่านั้น

คือก็น่าเห็นใจ
เพราะตัวที่โดนเรียกมาหลายคนก็เล่นดีมากในเกมลีกคือคู่ควรกับการติดทีมชาตินั่นล่ะ
อย่างไรก็ตามเราก็ต้องเข้าใจนิชิโนะเช่นกัน ว่าเกมสำคัญขนาดนี้
ที่จะชี้ชะตาการเข้ารอบ มันไม่มีเวลาลองผิด ลองถูกอีกแล้ว
จำเป็นต้องใช้ผู้เล่นที่มั่นใจในความสามารถ
และเป็นคนที่เข้ากับระบบทีมได้ทันที

เอาเป็นว่า
ไว้รอเกมอุ่นเครื่องที่ไม่ต้องกดดันมากๆ ค่อยมาว่ากันใหม่
ขณะที่เคสของฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์นั้นไม่สามารถเรียกความฟิตได้ทัน
ก็ต้องพักต่อไปก่อน

ตอนนี้ทีมชาติไทยเหลือกลุ่ม 24 คน ที่พร้อมที่สุด และเข้าใจกันที่สุด สำหรับการปะทะมาเลเซีย และเวียดนาม สองนัดต่อจากนี้

โดยเกมกับมาเลเซีย ธีราทร บุญมาทัน จะโดนแบน 1 นัด แต่เขาจะร่วมซ้อมกับทีมชาติตามปกติ และคัมแบ็กกลับมาลงเล่นในเกมกับเวียดนาม


ส่วนคนที่จะโดนตัดจากชุดเจอเวียดนาม เพื่อให้ธีราทรกลับมา
ก็น่าจะเป็นเอเลียส ดอเลาะ กองหลังจากท่าเรือ
เนื่องจากเซ็นเตอร์แบ็กของไทยมีครบแล้ว คือทอม เบียร์, พรรษา เหมวิบูลย์,
ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ อดิศร พรหมรักษ์

เวียดนาม
เป็นทีมที่ใช้กองหน้าตัวเล็ก เน้นบอลบนพื้นเป็นหลัก
ดังนั้นก็ไม่ต้องใช้ดอเลาะที่สูงถึง 196 เซ็นติเมตร
เป็นคนที่สามารถโดนตัดออกได้

การที่ดอเลาะใส่เบอร์ 3 ในนัดเจอมาเลเซีย ว่าง่ายๆก็คือพออุ้มกลับมาก็จะได้เอาเบอร์ 3 คืนทันทีนั่นแหละ

------------------------------

[ ระบบการเล่น ]

แผนการเล่นของไทย น่าจะชัดเจนแล้วว่า เราคงเลือก 4-2-1-3


เกมแรกสุดที่ไทยเจอเวียดนาม นิชิโนะใช้ระบบ 4-3-1-2 อัดกองกลางให้แน่น
ไม่จำเป็นต้องใช้ปีก แต่พอเสมอเวียดนาม 0-0 เขากลับมาใช้ระบบกองหน้า 3 คน
ซึ่งก็ชัดเจนว่า เกมที่ใช้ความเร็วทะลวงซ้าย-ขวา
ดูจะเหมาะกับทีมชาติไทยมากกว่า และด้วยแผนนี้ไทยชนะได้ ทั้งอินโดนีเซีย
และยูเออี

ไลน์อัพของไทย ในนัดต่อไปที่จะเจอมาเลเซีย แทบทุกตำแหน่งเราเดาได้เกือบหมด นายทวารเป็นศิวรักษ์ เทศสูงเนินแน่ๆ

คู่เซ็นเตอร์ จะเป็นทอม เบียร์ กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ขณะที่กองกลางจะเป็นพิธิวัตต์ จับคู่กับสารัช อยู่เย็น


มิดฟิลด์ตัวรุก เกมที่เจอยูเออี ใช้สุภโชค สารชาติ แต่เกมนี้เมื่อชนาธิป
สรงกระสินธ์กลับมาแล้ว ก็ไม่มีใครเหมาะสมยิ่งไปกว่าเจ ดังนั้นสุภโชค
จะถ่างไปยืนขวาแทน

ปีกซ้าย จะเป็นเอกนิษฐ์ ปัญญา
เพราะตอนเอกนิษฐ์ยืนฝั่งซ้ายทั้งในเกมกับคองโก และยูเออี เขาเล่นได้ดีมากๆ
ดีกว่ายืนฝั่งขวาพอควร แต่ก็คาดเดาได้ว่าระหว่างเกม สามตัวรุก
ชนาธิป-สุภโชค-เอกนิษฐ์ จะสลับซ้าย-กลาง-ขวากันตลอดเกม
เพื่อให้คู่แข่งเกิดอาการสับสน

กองหน้าตัวเป้า
แน่นอนว่าจะเป็นธีรศิลป์ แดงดา ด้วยผลงานในลีก ที่ยิงได้ 2 เม็ดให้เมืองทอง
ในเกมสุดท้ายในไทยลีกที่เจอตราด
ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขายังอยู่ในฟอร์มที่ดีอยู่
นอกจากนั้นมุ้ยเป็นอีกคนที่เคยยิงได้ที่บูกิต จาลิลมาแล้ว
รับประกันได้ว่าไม่มีสั่นไม่มีหงอแน่นอน

ส่วนตำแหน่งที่มีการดีเบทกันอยู่นะเวลานี้ คือแบ็กซ้าย กับ แบ็กขวา


แบ็กซ้าย มี 2 ชอยส์ คือศศลักษณ์ ไหประโคน กับ กรกช วิริยอุดมศิริ
ซึ่งถ้าถามความธรรมชาติ กรกชก็น่าจะตอบโจทย์กว่า
แต่ถ้าให้เดาใจนิชิโนะตามกระแสข่าว ก็ต้องเป็นศศลักษณ์อยู่แล้ว
ในเกมกับอินโดนีเซียศศลักษณ์ก็ลงเป็นสำรองแทนธีราทร ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย


จุดนี้น่าสนใจ เพราะศศลักษณ์ ต้องเล่นหลายตำแหน่งมากๆ กับทีมชาติ
เกมที่แล้วกับยูเออีเล่นปีกขวา คราวนี้สลับบนมายืนล่าง สลับขวามายืนซ้าย
คือโอเค ตอนอยู่บุรีรัมย์เราเห็นว่า เขาเล่นได้ 2 ฝั่งนั่นล่ะ
แต่กับทีมชาติชุดใหญ่ นี่จะเป็นนัดแรกจริงๆที่ออกสตาร์ตในตำแหน่งแบ็กซ้าย


ส่วนจุดที่ไม่มีคนเดาได้มากสุดว่านิชิโนะจะเอายังไง คือแบ็กขวา
เนื่องจากมีชอยส์สามคนที่มีศักยภาพแทบไม่ต่างกันเลย ได้แก่ ทริสตอง โด,
นิติพงษ์ เสลานนท์ และ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม

นฤบดินทร์
ดูจะเป็นสำรองแน่ๆ อย่างในเกมกับยูเออี เขาก็ลงมาเติมพลังให้ทีมในช่วงท้าย
ดังนั้นแปลว่าแบ็กขวาตัวจริงจะเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างทริสตอง โด กับ
นิติพงษ์ เสลานนท์

มีคนบอกว่า โด เลยจุดพีกแล้ว
ซึ่งผมยืนยันว่าไม่จริง เดือนมกราคมที่ผ่านมา
เขาคือหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมชาติไทย ในเอเชียนคัพ นอกจากนั้น 2
เกมแรกในบอลโลก ที่เจอเวียดนาม และ อินโดนีเซีย
เขาช่วยให้ไทยเก็บคลีนชีทได้ทั้ง 2 นัด

ขณะที่นิติพงษ์ ก็แน่นอน
เล่นโดดเด่นทั้งกับสโมสรและทีมชาติ กับสโมสรช่วยท่าเรือได้แชมป์เอฟเอคัพ
กับทีมชาติโชว์แอสซิสต์ในเกมยูเออี

จุดที่น่าสนใจคือทั้งสองคน อายุ
"เท่ากัน" คือ 26 ปี โดยโด อายุมากกว่าแค่ 4 เดือนเท่านั้น ขณะที่ส่วนสูง
โดสูงกว่าเล็กน้อย (171 ซม. - 167 ซม.) จึงบอกได้ว่า สภาพร่างกายทัดเทียม
และฟอร์มก็โอเคทั้งคู่ คือว่าตรงๆส่งใครก็ได้
อยู่ที่ว่านิชิโนะจะเลือกบุกแบบไหนแค่นั้น

นี่เป็นตำแหน่งเดียวที่เดาได้ยากที่สุด ซึ่งนอกจากในแคมป์ทีมชาติแล้ว คงไม่มีใครรู้ ว่าใครจะออกสตาร์ตนัดนี้

------------------------------

[ จะไปกลัวอะไรกับทีมบ๊วยของโถ 4 ]

นี่ไม่ได้ดูถูกอะไร มาเลเซียหรอก แน่นอนเราไม่ประมาทเขา แต่ก็ไม่อยากให้คิดว่า มาเลย์เก่งกาจมากมายอะไรขนาดนั้น

ภาษาอังกฤษมีสำนวนว่า "Respect the opponents, but don’t give them too much respect"

เคารพคู่แข่ง แต่อย่าไปให้ความยำเกรงเกินไป อย่าไปสร้างภาพว่ามาเลเซียใหญ่โตเกินจริง

ผมได้ยินสถิติแล้วล่ะครับว่า ไทยไม่เคยชนะที่บูกิต จาลิล ฟังดูแบบเป็นปมร้ายในใจที่ไทยไม่เคยผ่านไปได้

แต่ถ้าไปกางดูข้อมูลจริงๆ บูกิต จาลิล เปิดใช้งานปี 1998 โดยทีมชาติไทยชุดใหญ่ เคยลงเล่นสนามแห่งนั้นแค่ 3 ครั้งเองนะครับ

ปี 2012 มาเลเซีย 1-1 ไทย ซูซูกิคัพ ยุควินฟรีด เชเฟอร์
ปี 2014 มาเลเซีย 3-2 ไทย ซูซูกิคัพ ยุคเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ปี 2018 มาเลเซีย 0-0 ไทย ซูซูกิคัพ ยุคมิโลวาน ราเยวัช

2 ครั้งเราไม่แพ้ (เชเฟอร์ ,ราเยวัช) ส่วน 1 ครั้งที่เราแพ้ คือยุคซิโก้ ซึ่งสุดท้ายสกอร์รวมเราก็ชนะ ได้แชมป์ซูซูกิคัพอยู่ดี


ทั้ง 3 ครั้ง เป็นการเจอกันในซูซูกิคัพ ซึ่งเล่นเหย้า-เยือน
ซึ่งในยุคเชเฟอร์ กับราเยวัช เราต้องไปเยือนก่อน
ก็ต้องวางแผนเน้นเสมอไว้ก่อนอยู่แล้ว จากนั้นค่อยมาเชือดในบ้านเรา


ขณะที่ 1 ครั้งที่แพ้ คือในยุคซิโก้ ซึ่งเลกแรกเราชนะมาก่อน 2-0 พอเลก 2
มันเป็นเกมที่แพ้ได้อยู่แล้ว ขอแค่สกอร์รวมชนะพอ
ซึ่งสุดท้ายสกอร์รวมเราก็มากกว่าจริงๆ คว้าแชมป์ไปครองในปีนั้น


อยากจะบอกว่า สถิติที่บอกว่าไทยไม่ชนะเลยที่บูกิต จาลิล
มันก็แค่การเจอกันสามครั้ง ในเกมที่ต้องเล่นเหย้า-เยือน
ดังนั้นผลออกมาแบบนั้นก็ไม่แปลก

แต่นัดนี้มันต่างกันออกไป
เพราะมันคือฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ไทยไม่ได้มาเล่นเพื่อดึงเสมอและกลับไปปิดจ๊อบที่บ้าน
นัดนี้เราจะมาเล่นเพื่อชนะ และเราก็จะชนะกลับไป

ผมว่า สถิติไม่เคยแพ้ไทยในบูกิต จาลิล จะสิ้นสุดลงในครั้งที่ 4 นี่แหละ มั่นใจมากเลย

อันดับโลกล่าสุด ในเวิลด์แรงกิ้งไทยอันดับ 109 ส่วนมาเลเซีย อันดับ 158 ห่างกัน 49 อันดับ ซึ่งช่องว่างขนาดนี้มันต้องมีเหตุผลอยู่


ที่สำคัญมาเลเซียคือทีมแรงกิ้งอันดับสุดท้ายของโถ 4 เลยล่ะ ตอนจับสลากได้
บอกตรงๆผมรู้สึก "โอเค" นะครับ ดีกว่าโถนี้เราไปจับเจอ อัฟกานิสถาน หรือ
คูเวต ซึ่งทั้งโหด ทั้งเดินทางไกลกว่าตั้งเยอะ
นี่เป็นคู่แข่งที่ดีมากแล้วที่จับเจอ

------------------------------

[ เช็กฟอร์มมาเลเซีย ]

จุดเด่นของมาเลเซีย คือเกมรับใช้ได้ แต่เกมรุกตื้อตัน


แผงหลัง 4 คน พวกเขาไม่เปลี่ยนแน่ๆ คือใช้ แบ็กโฟร์จากเกมที่แพ้เวียดนาม
1-0 เพราะในเกมเจอทาจิกิสถาน ในแมตช์อุ่นเครื่อง เมื่อ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา
มาเลย์ก็ยึดแบ็กโฟร์ชุดนี้

- แมทธิว เดวีส์ (เบอร์ 2)
ลูกครึ่งมาเลย์-ออสเตรเลีย จากสโมสรปะหัง เล่นแบ็กขวา โดย เดวีส์
มีประสบการณ์เล่นที่เพิร์ธ กลอรี่ ใน เอ-ลีกมาแล้ว สูง 179 ร่างกายแข็งแรง


- คอร์บิน-อ่อง (เบอร์ 6) ลูกครึ่งมาเลย์-บาร์บาโดส จาก JDT เล่นแบ็กซ้าย
จุดเด่นคือ สูงถึง 184 ซม. มีร่างกายแข็งแกร่ง
ด้วยความเป็นลูกครึ่งแคริบเบียน และ คนนี้ทุ่มไกลอย่างแรง แบบรอรี่
ดีแล็ปเลยนะ ก็ต้องระวังไว้เยอะเหมือนกัน

- ไอดิล ซาฟวน (เบอร์ 7) จาก JDT เล่นเซ็นเตอร์ สูง 177 ซม. อายุ 32 เป็นนักเตะอายุมากที่สุดในกลุ่มแผงหลัง

- ชารูล ซาอัด (เบอร์ 3) จากสโมสรเปรัค เล่นเซ็นเตอร์ สูง 179 ซม. แต่เล่นได้ 2 ตำแหน่งกลางรับ กับ เซ็นเตอร์ คล้ายๆธนบูรณ์


ชุดนี้เล่นกันโอเค แบ็กซ้าย-ขวา เป็นลูกครึ่งทั้งคู่ มีความแข็งแรง
มีความใหญ่ ซึ่งหลายๆครั้ง ก็จะหุบมาช่วยเซ็นเตอร์ เพื่อป้องกันลูกโหม่ง

ในเกมที่มาเลย์ แพ้เวียดนามที่ฮานอย 1-0 เกมนั้นเวียดนาม เจาะลูกโหม่งใส่มาเลย์ไม่ได้เลย เตะมุมอะไร โดนมาเลย์เก็บกินหมด

ดังนั้นถ้าไทยใช้วิธีโยนบอมบ์เข้าใส่ อาจทำประตูได้ไม่ง่ายนัก


แต่จุดอ่อนที่ผมเห็น คือเซ็นเตอร์คู่นี้ ไอดิล-ชารูล
ดูช้าและค่อนข้างสับสนอยู่พอตัว เกมกับเวียดนาม ประตูที่เสียให้กวางไห่
คือเวียดนามตักบอลมาจากตรงกลาง กวางไห่สอดขึ้นมาตรงจุดเกรงใจ ของสองคน
แล้วยิงเข้าไป

เช่นเดียวกับเกมอุ่นเครื่องกับทาจิกิสถาน เซ็นเตอร์ทั้งคู่ ยังวิ่งกันสับสนไลน์อยู่เลย แบ็กซ้าย-แบ็กขวา ต้องไปช่วยประคองตลอด


ดังนั้นถ้าไทยจะเจาะ ผมว่าเกมนี้ธีรศิลป์ จะเล่นลูกกลางอากาศได้ยาก
เพราะมาเลย์ป้องกันได้ดี แต่ 3 ตัวรุก ชนาธิป-สุภโชค-เอกนิษฐ์
จะมีพื้นที่มากๆ ในการทำลายแนวรับของมาเลเซีย


ดังนั้นถ้าให้เดาใจนิชิโนะ เรื่องแบ็กขวา ผมคิดว่าเขาจะเลือกใช้ทริสตอง โด
เพราะจุดเด่นของนิติพงษ์ คือการครอสบอล ซึ่งในเกมที่ลูกโหม่งใช้การยาก
พลังทะลุทะลวงกัดไม่ปล่อยของโด น่าจะมีประโยชน์มากกว่า

เกมรับของมาเลเซีย ถือว่าโอเค เสียประตูยาก แต่ไม่ใช่ไม่มีช่องให้เจาะ


ขณะที่เกมรุก ถือเป็นปัญหาใหญ่ของพวกเขาเลย เพราะยิงประตูได้น้อยมากๆ
นอร์ชารูล ปัจจุบันอายุ 33 ปีแล้ว มีความเก๋าก็จริง
แต่ความเร็วไม่เหลือแล้ว

ส่วนซาฟารี่ ซายามี่
ตัวที่ยิงนอกเขตโทษใส่ไทยในซูซูกิคัพเมื่อปีที่แล้ว
โดนดร็อปจากตัวจริงไปสักระยะแล้ว ซึ่งก็คาดว่า
จะไม่ได้ลงในเกมนี้กับไทยด้วย

ตัวที่เป็นทีเด็ดของมาเลย์ มี 2
คนที่ต้องระวังไว้บ้าง คือ โมฮามาดู สุมาเรห์ (เบอร์ 13)
ปีกตัวจี๊ดที่เกิดที่ประเทศแกมเบีย และไม่มีเชื้อสายมาเลย์เลย
แต่โอนสัญชาติมาเล่นให้มาเลย์ในปี 2018 ซึ่งก็ตามสไตล์ของนักเตะแอฟริกัน
วิ่งเร็ว แรงดี แต่ขาดความแน่นอน

ส่วนอีกตัวคือซาฟาวี่ ราซิด (เบอร์
11) ปีกขวาแต่ถนัดซ้าย อยู่กับสโมสร JDT ชอบตั้งหลักที่ริมเส้น
แล้วตัดเข้าใน ใช้เท้าซ้ายยิงไกล บางทีลักไก่ซัดนอกเขตโทษหลายที

ก็นะ รู้ว่ามีความอันตราย แต่เชื่อว่าไม่ยากเกินช้างศึกรับมือจริงๆ

------------------------------

[ บทสรุป ]


ย้อนกลับไปในศึกเมอร์เดก้า คัพ ปี 1978 มาเลเซีย
เชิญญี่ปุ่นมาลงแข่งในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย ซึ่งญี่ปุ่น ณ เวลานั้น มีอากิระ
นิชิโนะ เป็นมิดฟิลด์ตัวหลักของทีม

21 กรกฎาคม 1978 เกมที่มาเลย์
เจอญี่ปุ่น นิชิโนะยิงประตูให้ทีมซามูไร นำไปก่อน 1-0
และนั่นก็เป็นประตูเดียวตลอดชีวิตการเล่นทีมชาติของเขาด้วย

แต่สุดท้ายนัดนั้น มาเลเซีย คัมแบ็กกลับมาได้ และเอาชนะไปขาดลอย 4-1 เกมนั้นถือเป็นนัดประวัติศาสตร์ในความทรงจำของคนมาเลเซีย


สื่อมาเลเซีย พยายามจะขุดประเด็นนี้ ถึงความแค้นของนิชิโนะ
ที่มีต่อความพ่ายแพ้ เมื่อ 41 ปีก่อน แต่เชื่อเถอะ ว่านิชิโนะ
คงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยสักนิดเดียว

ตรงกันข้าม สิ่งที่นิชิโนะ
จะโฟกัส มีแค่เรื่องในสนามมากกว่า ว่าทำอย่างไร
เราจะเอาชนะมาเลย์ไปได้แบบสมบูรณ์ที่สุด
ซึ่งผมคิดว่าเขาวางแผนทุกอย่างมาอย่างดีแล้ว


เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลทุกๆอย่าง เทียบตัวต่อตัวระหว่างผู้เล่นไทย
กับมาเลเซีย ก็ยังคงยืนยันว่า เกมนี้บรรยากาศอาจจะกดดัน แต่เอาจริงๆ
ไม่ยากขนาดนั้น

ผมคิดเหมือนที่สุภโชค สารชาติ
พูดเอาไว้ก่อนบินไปกัวลาลัมเปอร์ทุกประการ โดยสุภโชคบอกว่า
"เราไม่ได้ประมาทครับ แต่ผมคิดว่าสถิติมีไว้ทำลาย
และผมเชื่อว่าเราทำลายได้"

และขอหยิบประโยคเดิม มา Quote ซ้ำอีกที

"Respect the opponents, but don’t give them too much respect"

เคารพคู่แข่ง แต่อย่าไปเคารพจนเกินเหตุ มั่นใจในตัวเองหน่อย

ไทยจะชนะเก็บสามแต้มได้ที่บูกิต จาลิล จากนั้นเดินทางไปลุยเวียดนามที่ฮานอยด้วยความมั่นใจ ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ