Ultima Life

Ultima Life
2 ตัวจ่ายบาทละ 92 เต็งจ่ายบาทละ 800 แทงง่าย จ่ายไว เล่นได้ทุกวัน ดีจริง ๆ เลย มีทั้งหวยรัฐบาล หวยหุ้น หวยต่างประเทศ จับยี่กี ฯลฯ

ปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน

ปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน

ผมร่วง ผมบาง รับมือได้ไม่ยาก


        ปัญหาผมร่วง
ผมบางที่พบไม่ว่าชายหรือหญิงส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความสวยงามและบุคคลิกภาพที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านจิตใจมากกว่าด้านร่างกายจากการศึกษา
พบว่าคนเราสามารถมีผมร่วงได้เฉลี่ยวันละ 50-100
เส้นจากเส้นผมคนทั่วไปทั้งศีรษะมีประมาณ 100,000
เส้นวันไหนสระผมอาจพบผมร่วงเพิ่มได้เป็น2เท่าเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามภาวะผมร่วง ผมบาง อาจเกิดจากหลายสาเหตุ การมีความรู้
ความเข้าใจ จะทำให้สามารถจัดการกับภาวะดังกล่าวได้ดีขึ้น ภาวะผมร่วง
ผมบางที่พบ แบ่งออกเป็น ชนิดร่วงทั้งศีรษะ(Diffuse) สาเหตุอาจเกิดจาก
พันธุกรรม เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วง ผมบางที่พบได้บ่อยที่สุด
โดยแบ่งออกเป็นผมร่วง ผมบางในผู้ชาย(Male pattern baldness)
มักพบในผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวฝ่ายพ่อหรือแม่ผมบาง ศีรษะล้าน
อาการจะเริ่มพบได้ตั้งแต่วัยเจริญพันธุ์จนถึงอายุ 40
ปีจะต่างกันตรงที่ปริมาณและความรวดเร็วของผมที่ร่วง
เนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศ ลักษณะ พบว่าเริ่มจากหน้าผาก
มีการร่นของแนวผมด้านหน้าจะค่อยๆถอยร่นขึ้นไปโดยเฉพาะที่ขมับทั้ง 2
ข้างจะเห็นเหมือนรูป M แนวทางการรักษา


  • ยาทา 5% minoxidilทาเช้า-เย็น เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • ยารับประทาน finasteride 1 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน
        ผมร่วง ผมบางในผู้หญิง (Female pattern baldness)
มักพบว่ามีความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวฝ่ายมารดาที่ศีรษะล้าน
และอิทธิพลของฮอร์โมนเพศโดยเริ่มมีภาวะผมร่วงช้ากว่าในผู้ชาย
โดยจะเริ่มเมื่ออายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ลักษณะ
พบว่าผมบางบริเวณด้านบนของศีรษะโดยที่แนวผมด้านหน้าผากเป็นปกติไม่ถอยร่นขึ้นไปอย่างที่พบในผู้ชาย
แนวทางการรักษา


  • ยาทา 3% minoxidilทาเช้า-เย็น เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
        ชนิดร่วงเป็นหย่อม(Localized)
สาเหตุที่พบได้บ่อยอาจเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของตัวเอง
(autoimmune) ที่ทำลายรากผม ทำให้รากผมฝ่อและหลุดร่วงง่ายการติดเชื้อรา
เช่น โรคเชื้อราที่หนังศีรษะ เชื้อแบคทีเรีย
เชื้อไวรัสที่หนังศีรษะการใช้เครื่องมือหรือสารเคมีเพื่อความงามของทรงผม
เช่น เครื่องมืออบร้อน การย้อมหรือทำสีผมด้วยสารเคมี  แนวทางการรักษา


  • ควรพบแพทย์เพื่อรักษาความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันและการติดเชื้อดังกล่าว
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมืออบร้อน หรือสารเคมีที่มีผลทำร้ายผม
        นอกจากการพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุ และรับการรักษา
และหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง ผมบางแล้ว การบำรุงรากผมให้แข็งแรง
โดยการรับประทานวิตามินและสารอาหารที่มีผลการวิจัยว่าช่วยบำรุงผม
ทำให้รากผมแข็งแรงขึ้น ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นและนิยมอย่างแพร่หลาย
วิตามินและสารอาหารสำหรับดูแลภาวะผมร่วง ผมบาง บำรุงผม


  • แร่ธาตุสังกะสี                                 วันละ 15 มิลลิกรัม
  • แร่ธาตุซีลีเนียม                              วันละ 50 ไมโครกรัม
  • วิตามิน ซี                                          วันละ 200 มิลลิกรัม
  • วิตามิน อี                                          วันละ 50-400 IU
  • วิตามิน บีรวม อย่างน้อย             วันละ 25-50 มิลลิกรัม
  • ไบโอติน                                            วันละ 500-1,000 ไมโครกรัม

ตลาดธุรกิจขายตรงปี 61 ร้อนระอุทะลุ 70,000 ล้าน

ตลาดธุรกิจขายตรงปี 61 ร้อนระอุทะลุ 70,000 ล้าน

ในปีที่ผ่านมา2561 ต้องยอมรับถึงความเงียบเหงาของอุตสาหกรรมขายตรงไทยที่ทำเอาผู้ประกอบการปาดเหงื่อคอตกตามกัน ขณะเดียวกันก็ต้อง
น้อมรับถึงตัวเลขยอดขายต่อปีที่อาจไม่ได้ดั่งใจมากนัก และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกปีของการจัดอันดับทำเนียบผลประกอบการยอดขาย ทีมข่าวขายตรงหนังสือพิมพ์ “เดอะ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค” ได้ทำการจัดอันดับบริษัทขายตรงที่มี
ยอดขายสูงสุด 10 อันดับของประเทศในปี 2561 ที่ผ่านมา และขอย้ำว่าเป็นตัวเลขยอดขายที่เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น (ดูได้จากตารางยอดขายบริษัทขายตรงประจำปี 2561)
ตำแหน่งแชมป์ยอดขายพุ่งยังคงเป็นพี่ใหญ่ “แอมเวย์” ประกาศลั่นปิดยอด 19,000
ล้านบาท โตกว่าปีที่แล้ว 4% ส่วนอีก 2 ค่ายขายตรงไทยยอมรับยอดขายโตบวกลบ 2-3% ได้แก่ “กิฟฟารีน” ปิดยอดขาย 5,000 ล้านบาท ตามด้วย “จอย แอนด์ คอยน์” ปิดที่ 2,000 ล้านบาท แต่งานนี้มีเฮที่ขายตรงสัญชาติมาเลเซีย “ซูเลียน” แม้เจอวิกฤติเมียนมาแต่ฟอร์มยังดียอดพุ่งเฉียด 3,000 ล้านบาท ขณะที่ “นู สกิน” ยังคงเติบโตเช่นกันเพราะดันระบบออนไลน์เข้าช่วย
ขณะเดียวกันหากหันมองค่ายขายตรงที่เปิดดำเนินธุรกิจไม่ถึง 10 ปี กับยอดขายปี 2561
ทั้งค่าย “ไอยรา แพลนเน็ต-ซัคเซสมอร์ -เลกาซี่-เจอเนสส์-มาสเตอร์พีซ-CCI” ยังคงเติบโตดี บางค่ายตีปีกเพราะได้ยอดขายต่างประเทศหนุน ส่วนค่ายที่เหลือไม่ว่าจะเป็น “คังเซน-เคนโก,
กาโนเอ็กเซล, นิว ไลฟ์, ซินเนอร์จี้” แม้ยอดขายไม่พุ่งแรงแต่ก็ยังประคองตัวเองเดินต่อได้อย่างมีความหวัง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยอดขายดังกล่าวได้อ้างอิงจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงพาณิชย์ ส่วนตัวเลขยอดขายปี2561ที่ระบุนั้นเป็นตัวเลขที่บางบริษัทขายตรงยืดอกออกมาประกาศชัดแล้ว และส่วนหนึ่งจากข้อมูลสัมภาษณ์ของผู้ประกอบการที่ได้คาดการณ์ประมาณยอดขายไว้ นำเสนอถึงความเคลื่อนไหวธุรกิจขายตรงที่ต้องเร่งปรับตัวเองท่ามกลางเศรษฐกิจไทยถดถอย
ปัจจุบัน ธุรกิจขายตรง หรือธุรกิจเครือข่าย (Multi-Level Marketing : MLM) ประเมินมูลค่าการตลาดรวมอยู่ที่ 71,000 ล้านบาท(ตัวเลขล่าสุดในปี 2561) หรือ คิดเฉลี่ยอุตสาหกรรมขายตรงไทยทั้งระบบ เติบโตไม่ต่ำกว่า 3-5% / ปี และนอกจากจะสร้างเม็ดเงินไหลเวียนในประเทศแล้ว ธุรกิจขายตรงยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคทั่วไปมากกว่า 11 ล้านคน อีกทั้งพบว่ามีบริษัทที่ยื่นจดทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ตั้งแต่ปี 2545-2561 สรุปล่าสุดอยู่ที่ 1,441 บริษัท แบ่งเป็นธุรกิจขายตรง 995 บริษัทและ ธุรกิจตลาดแบบตรง 446 บริษัท แต่จากตัวเลขของสคบ.ระบุว่า มีบริษัทที่เปิดดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง 300-400 บริษัทเท่านั้นเอง
โดยภาพรวมปีที่ผ่านมา 2561 สรุปแล้วเป็น ปีหมาดุปนบ้าเศรษฐกิจซึม กำลังซื้อถดถอยสร้างผลกระทบต่อทุกภาคส่วน แม้แต่ธุรกิจขายตรงเองที่ใครหลายคนมองว่าจะรุ่งเพราะเป็นอาชีพที่สร้างคนสร้างโอกาสในภาวะวิกฤติก็ส่อเค้าอาการโคม่าตามกัน เหตุเพราะจากผลพ่วงหลายสถานการณ์ติดลบที่ทำให้ธุรกิจขายตรงพลาดท่าเดินเซทั้งจากฤทธิ์เดชเมจิกสกินล้างโลก ชัดดาวน์ MLM เมียนมาร แชร์ลูกโซ่ระบาด บิทคอยท์พ่นพิษ เป็นต้น ที่ทุกค่ายต้องนำมาเป็นบททดสอบเรียนรู้ใหม่ เพื่อนำมาสร้างเกราะให้ตนเองแข็งแรงมากขึ้น
สำหรับปีนี้ 2562 นักกษัตริย์ปีกุนก็ขอลุ้นให้เป็นปีหมูทองผ่องอำไพ ขอให้ทุกบริษัทขายตรงน้ำดีที่มีความตั้งใจทำธุรกิจจริงจัง ซื่อสัตย์สุจริต มีผลกำไรเยอะๆจะได้ขวัญกำลังใจสู้กันต่อไป โดยให้จับตามองธุรกิจเครือข่ายที่มาแรงสุด ๆ ในช่วงท้ายปีคือ Ultima Life ที่เพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนพฤศจิกกายนที่ผ่านมา แต่มียอดขายแบบก้าวกระโดด ด้วยระบบการตลาดที่จัดเต็มจากทุนมหาศาล ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะติดเข้ามาในทำเนียบธุรกิจเครือข่ายยอดนิยมของบ้านเราอย่างแน่นอน


Ultima Life by DOD Biotech

Ultima Life by DOD Biotech

อัลติม่า ไลฟ์ เป็นบริษัทในเครือของ DOD Biotech
ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีโรงงานสกัด
และผลิตอาหารเสริมที่ทันสมัย ได้รับมาตราฐานเดียวกับการผลิตยา Ultima Life
ธุรกิจออนไลน์มาแรงที่ทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท
โดยใช้ดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมทสินค้าถึง 5 คนด้วยกัน
บวกด้วยสื่อโฆษณาครบทุกประเภททั้งออนไลน์, ทีวี, บิลบอร์ด, จอดิจิตอล,
รถไฟฟ้า MRT, สื่อโฆษณาบนรถสาธารณะ, รถยนต์ส่วนตัว
เพื่อดึงดูดผู้ที่พบเห็นให้สนใจ และง่ายต่อการส่งต่อในการทำธุรกิจ
อีกทั้งยังมีระบบ Ultimatrix
ที่ทำหน้าที่ค้นหารายชื่อผู้ที่สนใจร่วมทำธุรกิจจำนวนมาก
โดยระบบสามารถช่วยทำงานแทนเราได้ถึง 94% ซึ่งเหมาะกับผู้ที่อยากทำธุรกิจ
แต่รู้จักคนไม่มาก หรือมีปัญหาเรื่องไม่รู้ว่าจะไปชวนใคร
Ultima Life
สามารถตอบโจทย์เรื่องธุรกิจเครือข่ายได้อย่างตรงประเด็น
โดยระบบจะทำการสุ่มรายชื่อ
และนำรายชื่อเหล่านั้นมาทำให้เราเปลี่ยนเป็นรายได้ได้อีกด้วย อัลติม่า
ไลฟ์ยังมีเทคโนโลยี AR Scan (สินค้าพูดได้)
ที่ทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ
เรามีโคชมืออาชีพเป็นที่ปรึกษาในการขยายธุรกิจ และก็มี UTM Learning
ซึ่งเป็นคอร์สเรียนรู้การสร้างธุรกิจออนไลน์กว่า 100 คอร์ส
ที่สมาชิกสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ฟรี เพื่อที่จะเป็นนักธุรกิจอัลติมา ไลฟ์
อย่างเต็มตัว และประสบความสำเร็จ มีรายได้อย่างยั่งยืน มั่นคง


ธุรกิจออนไลน์มาแรง Ultima Life

ต่ออายุแรงงานต่างด้าว

ต่ออายุแรงงานต่างด้าว

การว่าจ้างแรงงานต่างด้าว....ใกล้หมดอายุจะทำอย่างไร?

การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่สัญชาติ
กัมพูชา ลาว เมียนมา ที่ใบอนุญาตทำงานจะสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน
พ.ศ.2562 – 31 มีนาคม พ.ศ.2563 ซึ่งบริษัท 8 ทิศกู้ดเพาเวอร์ จำกัด
ได้เข้าประชุมในวันที่ 31 กรกฎาคม  พ.ศ.2562 ห้องประชุมชั้น 11
กระทรวงแรงงาน  โดยการแบ่งกลุ่มในการดำเนินการแยกออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้

กลุ่มที่ 1.กลุ่มวันสิ้นสุดการอนุญาตทำงานก่อนวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562

             อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่   30 กันยายน พ.ศ.2562  เท่านั้น

กลุ่มที่ 2.กลุ่มวันสิ้นสุดการอนุญาตทำงานวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2563

    อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2563 เท่านั้น

แต่ใน 2 กลุ่มดังกล่าวแนวทางบริหารจัดการอนุญาตให้ตีวีซ่า  1 ปี   ด้วยราคา
1900 บาท / คน ซึ่งแตกต่างจากราคาตีวีซ่าปัจจุบันซึ่งมีราคาเพียง 500 บาท
/ระบุ 2 ปี   ซึ่งทำให้ปี2564 แรงงานทั้ง 2
กลุ่มนี้จำเป็นต้องดำเนินการตีวีซ่าอีกครั้ง ด้วยราคา 1900 บาท/ปี และ
ตรวจสุขภาพ 500 บาท  ทำให้ค่าใช้จ่ายใน ปีที่ 2 เพิ่มอีก 2400 บาท/คน   
ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการดำเนินการในปีแรก 

บริษัท 8 ทิศกู้ดเพาเวอร์ จำกัด ได้ดำเนินการสรุปขั้นตอนตามรูปด้านล่าง เพื่อความเข้าใจให้ทางผู้ประกอบการและนายจ้าง




รับจัดหาแรงงานต่างด้าวถูกกฏหมาย